จากการสร้าง web browser ที่ปลอดภัยที่สุดของ Chrome ได้ข้อสรุปว่า Chrome เป็น web browser ที่ปลอดภัยที่สุด ในการดับจับไซต์ที่เป็นอันตราย และสามารถแก้ไขช่องโหว่ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีระบบป้องกันหลายชั้น อีกด้วย ในอนาคต Chrome จะแสดงในหน้าเว็บว่า “ไม่ปลอดภัย” ในสองกรณี คือ เมื่อผู้ใช้ทำการป้อนข้อมูลในหน้า HTTP กับ หน้า HTTP ทั้งหมดที่เข้าโดยใช้โหมดไม่ระบุตัวตน
Google พยายามให้มีการใช้งาน HTTPS อยู่ตลอดเวลา และล่าสุดข้อมูลจาก Transparency Report นั้น
มีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
- การเข้า Chrome บน Android ได้รับการป้องกันเพิ่มขึ้นเป็น 64% เพิ่มขึ้นจากเดิม 42% ในปีที่ผ่านมา
- การเข้า Chrome จากทั้ง ChromeOS และ Mac ได้รับการป้องกันเพิ่มขึ้น 75% จากเดิม บน Mac 60% และ ChromeOS 67%
- เว็บไซต์ 71 แห่งจากเว็บไซต์ยอดนิยม 100 แห่งเปิดใช้งาน HTTPS เป็นค่าเริ่มต้น เพิ่มจาก 37 เว็บเมื่อปีที่แล้ว
- ประเทศที่มีเปิดใช้งาน HTTPSมากที่สุดคือเม็กซิโกที่ 96% ตามมาด้วยสหราชอาณาจักร 95%, อินเดียและบราซิล 94% Google ยังคงเชื่อว่าจะมีการใช้ HTTPS เพิ่มขึ้นทั่วโลก

ดังตัวอย่างที่เห็นได้จาก การใช้งาน HTTPS ในญี่ปุ่นเมื่อไม่นานมานี้ กับไซต์ที่มีขนาดใหญ่ เช่น Rakuten, Cookpad, Ameblo และ Yahoo Japan ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นว่า HTTPS ในญี่ปุ่นพุ่งขึ้นจาก 31 เปอร์เซ็นต์เป็น 55 เปอร์เซ็นต์ในปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังเห็นได้ว่ามีแนวโน้มที่จะใช้ HTTPS ในประเทศอื่นๆ เช่น การใช้ HTTPS เพิ่มขึ้นจาก 50% เป็น 66 เปอร์เซ็นต์ในบราซิลและ 59% เป็น 73 เปอร์เซ็นต์ในสหรัฐฯ Google ยังคงผลักดันให้เว็บไซต์เปิดใช้งานระบบเข้ารหัสอยู่เรื่อย ๆ โดยทุกวันนี้การเปิดใช้งาน HTTPS สำหรับเว็บไซต์ก็มีโซลูชั่นที่ง่ายและราคาถูกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยใช้ Let’s Encrypt ที่เป็นบริการออกใบรับรองเว็บอัตโนมัติฟรีที่ Google Chrome เป็นสปอนเซอร์ระดับ Platinum และ Google ยังมีการเพิ่มความปลอดภัยให้เว็บไซต์ top-level domain ของ Google อย่าง .foo หรือ .dev ด้วยการเปิด HSTS เป็นค่าเริ่มต้น และยังมีระบบจัดการใบรับรอง SSL สำหรับ Google App Engine อีกด้วย
ที่มา : Googel, Google Transparency Report